00-15. 00 น. ราคา 2, 588++ บาทต่อคน เท่านั้น ที่ห้องอาหารจีน เย่า เรสเตอรองท์ (Yào Restaurant) นำเสนอเมนูในโอกาสพิเศษนี้ 2 เซ็ต ได้แก่ เซ็ตเมนูติ่มซำวันแม่ ประกอบด้วย ติ่มซำนานาชนิดขนมจีบหอยเป๋าฮื้อ, ฮะเก๋าล็อบสเตอร์, เกี๊ยวฟัวกราส์ท...
โครงการ "อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน" ตั้งจุดบริการทั่วไทย ตลอดเทศกาลปีใหม่ กิจกรรม "ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 31 ธันวาคม 2562 ให้บริการตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ก่อนเดินทางจำนวน 20 รายการ โดยไม่คิดค่าบริการ เช่น การตรวจระบบเบรก สภาพยาง อุปกรณ์ปัดน้ำฝน ระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่อง ท่อยาง หม้อน้ำและรอยรั่ว การทำงานของไฟส่องสว่าง/ไฟสัญญาณต่างๆ ณ สถานบริการกว่า 31 องค์กร จุดให้บริการกว่า 2, 300 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ 1. Honda จัดแคมเปญ "หนาวนี้ ตรวจรถฟรี ขับขี่มั่นใจ ปลอดภัยทุกเส้นทางกับฮอนด้า" ตรวจสภาพรถฟรี 25 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 – 31 มกราคม 2563 2. Nissan จัดแคมเปญ "Nissan All Ways Care" ที่พร้อมบริการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 28 รายการมาตรฐาน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2562 3. Mazda ร่วมโครงการ "ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2563" เชิญชวนลูกค้านำรถเข้าตรวจเช็คสภาพรถฟรี 20 รายการ ตามมาตรฐานกรมการขนส่งทางบก ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2562 – 15 มกราคม 2563 ณ ศูนย์บริการมาสด้าทั่วประเทศ 4.
Isuzu และ กรมการขนส่งทางบก ตรวจเช็กรถฟรี 30 รายการ สำหรับรถปิกอัพอีซูซุทุกรุ่น และรถยนต์นั่งอเนกประสงค์อีซูซุทุกรุ่น ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 30 ธันวาคม 2562 5. Toyota ร่วมมือกับกรมขนส่งทางบกจัดกิจกรรม "ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย" โดยให้บริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ 24 รายการ ฟรี ที่ศูนย์บริการ ผู้แทนจำหน่าย Toyota ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2562 6. Hyundai จัดแคมเปญ New Year Campaign ชวนลูกค้าเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี 40 รายการ ส่งท้ายปี 2562 ต้อนรับปี 2563 ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 – 11 มกราคม 2563 7. กรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรม "ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย" ให้บริการตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฟรีก่อนเดินทางจำนวน 20 รายการ ณ ศูนย์บริการซ่อมบำรุงรักษารถ ศูนย์ซ่อมรถของบริษัทประกันภัย บริษัทติดตั้งแก๊ส NGV/LPG ในรถยนต์ บริษัทผลิตและศูนย์บริการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง อู่มาตรฐานของบริษัทประกันภัย สถานตรวจสภาพรถ (ตรอ. )
ศักยภาพด้านการเสาะหาวัตถุดิบที่มีเครือข่ายแหล่งวัตถุดิบภายในประเทศมากกว่า 1, 000 ราย และวัตถุดิบชั้นเลิศจากต่างประเทศ 2. ศักยภาพด้านการขนส่ง เครือข่ายสาขาที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ 3.
น้ำมันเครื่อง เป็นส่วนหล่อลื่นที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรหมั่นตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องยนต์อย่างส่ำเสมอ วิธีเช็ค จอดรถให้อยู่แนวราบ เปิดกระโปรงรถ มองหาก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง และดึงก้านวัดก้านขึ้นมา ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดน้ำมันเครื่องที่ติดอยู่บนก้านวัด เสียบก้านวัดคืนจุดเดิมแล้วดึงขึ้นมาเพื่อเช็คอีกครั้ง ให้สังเกตแถบน้ำมันเครื่องที่ติดอยู่บนก้านวัด ควรอยู่ระหว่างขีด F กับ L หรือ Max กับ Min แต่ถ้าอยู่มากหรือน้อยเกินไปควรเติมหรือลดน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับปกติ ต่อกันที่ ภายนอกรถยนต์ 1. ยางรถยนต์ เป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อน สิ่งที่ควรเช็คคือ ความดันลมยาง รอยแตกของยาง และความลึกของดอกยาง วิธีเช็ค เคาะยางดูให้แน่ใจว่าลมยางอ่อนหรือไม่ ลมยางควรอยู่ในปริมาณที่พอดี ถ้าจะให้ดีไปเติมลมสักหน่อยก่อนออกเดินทางและเลือกปริมาณลมตามมาตรฐานของยางที่ใช้ เช็คหน้ายางว่ามีรอยฉีกขาดหรือรอยแตกหรือไม่ และดอกยางนั้นยังมีเหลือมากน้อยแค่ไหน ถ้าหน้ายางมีรอยแตกมาก หรือมีดอกยางน้อย แนะนำให้เปลี่ยนยางใหม่นะครับ 2.
๐๐ บาท 4. ที่จอดรถ ที่กลับรถและทางเข้าออกรถ (คัน) ตารางเมตรละ ๐. ๕๐ บาท 5. ป้าย พื้นที่…………ตร. ๆ ละ ๔. ๐๐ บาท 6. อาคารที่ต้องวัดความยาว เช่น เขื่อน ทางหรือท่อระบายน้ำ รั้วหรือกำแพงประตูรั้ว ความยาว…………. เมตร ๆ ละ ๑. ๐๐ บาท 7.
รถใช้ระหว่างซ่อม อ่านรายละเอียดเพิ่มเติ่มคลิกลิ้งที่พี่หมีแนบมาได้เลยนะครับ หรือโทร 1737 สอบถามพี่หมีได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ เบอร์โทรศัพท์ ประกันที่สนใจ
ระบบเบรก เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการขับรถทางไกล ถ้าเบรกไม่ได้ขึ้นมาขณะขับจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ฉะนั้นควรสังเกต ผ้าเบรก เสียงเบรก และน้ำมันเบรก ให้อยู่ในสภาพที่ให้งานได้ วิธีเช็ค เหยียบเบรก แล้วฟังว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่ หากมีแสดงว่า ผ้าเบรกอาจมีปัญหา ควรเข้าอู่ให้ช่างดูด่วน และอย่าลืมเช็คน้ำมันเบรก ควรให้อยู่ในปริมาณที่เพียงพอ 2. แบตเตอรี่รถยนต์ มี 3 แบบ ได้แก่ แบบน้ำ แบบแห้ง และแบบกึ่งแห้ง ซึ่งมีความต่างกัน แบตเตอรี่แบบน้ำจะต้องเติมน้ำกลั่นและได้รับการดูแลเป็นประจำ ต่างจากแบตเตอรี่แบบแห้งที่ไม่ต้องดูแลมาก แต่อายุการใช้งานจะน้อยกว่าแบบน้ำ ส่วนแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้งจะต้องเติมน้ำกลั่นปีละ 1-2 ครั้ง หากเราไม่เติมน้ำกลั่นเลยก็จะทำให้แบตเสียหาย และสตาร์ทรถไม่ติด วิธีเช็ค เติมน้ำกลั่นให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และเช็ควันหมดสภาพการใช้งานของแบตให้แน่ใจยังใช้งานได้อยู่ 3. ระบบหล่อเย็น เราควรตรวจสอบระบบหล่อเย็นอยู่เสมอ เช็คว่ายังมีน้ำในหม้ออยู่ไหม ใช้งานได้ปกติหรือเปล่า แต่รถบางรุ่นกำหนดระยะเวลาไว้ให้เติมน้ำยาหล่อเย็นทุกๆ 2 ปี หรือ 40, 000 กิโลเมตร และรถบางรุ่นกำหนดไว้ที่ 100, 000-200, 000 กิโลเมตร หากรถมีการเช็คตามระยะอยู่เสมอ ระบบหล่อเย็นก็ไม่น่าเป็นห่วงครับ วิธีเช็ค เช็คน้ำในหม้อน้ำพักว่ามีปริมาณเท่าไหร่ หากเห็นว่ามีปริมาณน้ำลดลงมากกว่าปกติ ให้เติมน้ำยาหล่อเย็น (Coolant) และน้ำเปล่าสะอาดผสมกันในอัตรา 50/50 ลงในหม้อน้ำจนถึงขีด max 4.
หอย ลาย อบ เนย กระเทียม, 2024