00-15. 00 น. ราคา 2, 588++ บาทต่อคน เท่านั้น ที่ห้องอาหารจีน เย่า เรสเตอรองท์ (Yào Restaurant) นำเสนอเมนูในโอกาสพิเศษนี้ 2 เซ็ต ได้แก่ เซ็ตเมนูติ่มซำวันแม่ ประกอบด้วย ติ่มซำนานาชนิดขนมจีบหอยเป๋าฮื้อ, ฮะเก๋าล็อบสเตอร์, เกี๊ยวฟัวกราส์ท...
ขาดการออกกำลังกาย การที่ร่างกายไม่ได้รับการยืดเส้นยืดสายเลย โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ จะเสี่ยงต่อการถ่ายไม่ออก อย่าลืมว่าการออกกำลังกายมีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เป็นปกติ 4. เป็นโรคลำไส้แปรปรวน โรคลำไส้แปรปรวนคือ โรคที่เป็นกันมากในกลุ่มคนทำงาน เนื่องจากโรคนี้จะทำการบีบตัวลำไส้ใหญ่ให้มีความผิดปกติไปจากเดิม ดังนั้นจึงควรรีบพบแพทย์เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องทรมานกับโรคนี้ อีกทั้งเพื่อไม่ให้เผชิญกับอาการถ่ายไม่ออกด้วย 5.
เป็นคนขี้ยากมาก บางที 6 - 7 วันขี้ครั้งนึง ทำไงดีคะ | HD สุขภาพดี เริ่มต้นที่นี่ 13 4 คนเห็นว่าคำถามนี้มีประโยชน์ คุณเห็นว่าคำถามนี้มีประโยชน์หรือไม่ ดูคำถามและคำตอบอื่นที่คล้ายกัน เราใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด ได้ที่นี่ เราใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีที่สุด คุณสามารถดูสรุปนโยบายความเป็นส่วนตัวและการใช้คุกกี้ อ่านนโยบายที่นี่
Jun 10, 2017 at 12:49 PM สวัสดีค่ะ คุณSansinee อาการถ่ายอุจจาระไม่ออกของคนสูงอายุนั้นพบได้บ่อยมากโดยปกติแล้วคุวรจะถ่ายอย่างน้อยสองถึงสามวันครั้ง วิธีการที่จะทำให้การถ่ายอุจจาระของคล่องมากขึ้นนั้นคือการรับประทานสารอาหารพวกกากใย รับประทานน้ำให้เพียงพอ ออกไปเดินออกกำลังกายให้ลำไส้ได้ขยับตัวนอกจากนี้ ยังมียาหลายตัวที่ช่วยในการขับถ่ายเช่นยาที่สั่งไฟเบอร์อย่างที่ทำให้อุจจาระนิ่มหากรับประทานยาเหล่านี้แล้วยังไม่สามารถขับถ่ายการส่วน อุจจาระจะเป็นวิธีการช่วยถ่ายวิธีสุดท้ายที่ได้ผลดีค่ะ
วิธีแก้อุจจาระไม่ออกอุจจาระแข็ง อุจจาระตกค้าง หรือประเภท 2 วัน 3 วันจึงถ่ายครั้งหนึ่ง เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้เขียนได้รับอีเมลฉบับหนึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "อันตรายจากอุจจาระตกค้าง" ระบุว่า หากคนเราเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด กินอาหารที่มีกากใยน้อย มีพยาธิ หรือ เชื้อรา ระบบดูดซึมเสีย ไม่ถ่ายอุจจาระเวลา05. 00-07. 00 น. เช้า หรือ หากถ่ายอุจจาระ หลังเวลา 7 โมงเช้า ลำไส้จะบีบ ให้อุจจาระขึ้นไปข้างบน เวลาถ่ายจะถ่ายไม่หมด อุจจาระที่ค้างก็จะเกาะที่ผนังลำไส้ พอมีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่า มันก็แซงหน้าไปก่อน แต่มันไม่สามารถดันพวกที่ค้างแข็งให้ออกไปได้ พวกที่ค้างแข็งไว้ ก็เกาะติดแน่นไปเรื่อยๆ อุจจาระตกค้างจะไปทับเส้นเลือดต่างๆ ในกระเพาะ และกดทับกระดูกหลัง ทำให้เกิดอาการมากมาย เช่น ท้องอืด ปวดหลัง ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่และสะบัก เวียนหัว อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เป็นฝ้า ไมเกรน และอื่นๆ เพื่อให้ผู้อ่านหายข้องใจ นพ. กฤษดา ศิรามพุช ผอ. สถาบัน เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ จะมาไขข้อข้องใจให้ทุกคนได้รับทราบ นพ. กฤษดา อธิบายว่า เรื่องอุจจาระตกค้าง หรือ อึค้างเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ทุกคน เราอาจตรวจสัญญาณอึค้างในลำไส้ใหญ่ได้เองง่ายๆ โดยการนอนหงาย แล้วเอามือคลำท้องด้านซ้ายล่าง เลยสะดือไปทางซ้ายหน่อย แล้วเอานิ้วทั้ง 5 ลองกดดูจนลึกเต็มที่เลื่อนไปมา ถ้ามีอึค้างอยู่จะคลำได้เป็นลำคล้ายแท่งยาวๆ อยู่ตามรูปลักษณ์ของ ลำไส้ โดยลำไส้ใหญ่นี้จะยิ่งคลำได้ชัดในคนที่ผอม สำหรับคนเจ้าเนื้ออาจต้องใช้เทคนิคนอนแล้วแขม่วพุงช่วยแล้วค่อยคลำจะชัดขึ้น ที่จริงเรื่องการอึที่ดูเหมือนเป็นกิจวัตรธรรมดาไม่มีอะไรนั้น มันต้องมีการฝึกเข้าส้วมกันบ้างให้ติดเป็นนิสัย กลุ่มคนที่มักมีปัญหาเรื่องอึค้าง ได้แก่ 1.
ดิฉันมีปัญหาอุจจาระแข็ง เบ่งขี้มาสามวันเต็มๆแล้วค่ะ มันทรมานมากเลย วันแรกดิฉันต้องเบ่งเพื่อให้ปากมันเปิด แล้วใช้เล็บค่อยๆจิ๊กออกมาทีละนิดๆ เเต่ว่าทำไปได้สักพักหมดแรง เลยกินยาระบายไปหวังว่ารุ่งขึ้นจะออกแต่ก็ไม่เลย พอวันที่สองดิฉันก็นั่งอยู่แต่ในห้องน้ำทั้งที่ออฟฟิศ และที่บ้าน แต่ไม่มีเเรงเบ่งเลยแต่ก็ยังพยายามเบ่ง มันก็มีแต่เลือดออกมาเป็นหยดๆไม่มีก็อึออกมานะค่ะ ดิฉันเลยนึกออกว่าเพื่อนเคยทำดีท๊อกที่รพ. หวังว่าจะช่วยได้ เเต่พอไปถึงพยาบาลบอกทำให้ไม่ได้จริงๆ เพราะดิฉันถ่ายเป็นเลือด แสดงว่าเกิดอาการอักเสบอยู่ เค้ากลัวเราจะติดเชื้อ คือ.. เราไม่มีที่พึ่งเเล้ว เลยกลับบ้านมากินยาถ่าย+ยาระบายต่อ เเต่ก็ไม่ได้ผลเหมือนเดิม วันนี้เลยลองวิธีที่ชาวบ้านๆเค้าทำกัน ที่บอกให้นวดใต้สะดือ กะเคาะเข่าไปเรื่อยๆมีความหวังเหมือนมันจะได้ผล เเต่ว่าก็หมดเเรงไปซะก่อน เพื่อนๆมีวิธีอะไรกันบ้างค่ะ หรือ มีรพ. ไหนที่เค้าช่วยเราใช้ยาสวนให้บ้างไหมค่ะ แบบสวนที่รพ. เลย พอดีกลัวไม่ได้สวนเอง อีกอย่างบ้านเราคนเยอะมาก ไม่สะดวกในการนอนสวนเองเลยค่ะ แสดงความคิดเห็น
ขยันออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อาจเป็นการเดินหรือวิ่งเหยาะ ๆ รวมไปถึงพยายามเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวันบ่อย ๆ เพื่อช่วยเพิ่มการบีบตัวของลำไส้มากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อและระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติมากขึ้น 4. ปรับพฤติกรรมการขับถ่ายให้ถูกต้อง วิถีที่เร่งรีบของสภาพสังคมก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดอาการท้องผูกได้ง่าย ผู้ที่มีอาการท้องผูกบ่อยควรเริ่มปรับพฤติกรรมการขับถ่ายให้เป็นเวลาในแต่ละวัน ไม่กลั้นอุจจาระเมื่อเกิดอาการปวดโดยไม่จำเป็นหรือถ่ายด้วยความรีบเร่ง นอกจากนี้ ท่านั่งในการถ่ายอุจจาระก็สำคัญ การนั่งถ่ายบนโถส้วมชักโครกควรโค้งตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย อาจมีเก้าอี้ตัวเล็กรองบริเวณขา เพื่อชันเข่าขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้หัวเข่าอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าสะโพก ซึ่งเป็นท่าที่ช่วยให้สะดวกต่อการขับถ่าย 5.
จะอยู่กับแม่สามียังไงให้มีความสุข? มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
นวดลำไส้ ถ้าในเด็กให้นวดรอบสะดือ ในผู้ใหญ่ให้นวดตรงท้องด้านล่างซ้ายเลยสะดือไป นวดเบาๆ ไปมาแล้วทิ้งไว้สักพักจะรู้สึกปวดถ่ายขึ้นมา 5. เอามือกดท้องด้านซ้ายล่างขณะถ่าย หรือจะลุกขึ้นนั่งยองเอาหน้าขาเป็นตัวกดไล่อึออกมา เพราะที่จริงแล้วการอึที่ดีตามธรรมชาติของคนคือ "นั่งยอง" เพราะจะได้มีแรงกดจากหน้าขาด้วย การที่ฝรั่งเอาส้วมแบบนั่งมาให้เราใช้เป็นการผิดธรรมชาติมนุษย์ที่จะไม่มีแรงเบ่ง อึ มากในท่านั่งห้อยขา ทำให้คนเอเชียกลายเป็นทั้งริดสีดวงและท้องผูก มากเหมือนฝรั่งด้วย 6. ลุกขึ้นเดินไปมา จะทำให้ไส้บีบตัวดี สักพักไส้จะบีบรีดเอา "อึท้ายขบวน" ที่เหลือออกมาแล้วเราจะรู้สึกปวดเบ่งอีกที ไม่ว่าใครก็ตามถ้าความถี่ในการอึน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ถือว่า "ท้องผูก" นอกจากออกกำลังกายแล้วอาจใช้อาหารล้างลำไส้ช่วยได้ คือ 1. น้ำมะขามเปียกก้นครัว 2. ลูกพรุนแห้งรับประทานทั้งผล เพราะจะได้กากด้วย ไม่ต้องแยกกินแต่น้ำ ยกเว้นถ้าเป็นเด็ก 3. แอปเปิ้ลเขียว กินทั้งผลหรือปั่นทั้งกากก็ได้ 4. ถั่วดำ จัดเป็นอาหารล้างพิษได้ด้วย 5. สับปะรดและมะละกอที่มีน้ำย่อย ช่วยกัดกากคราบโปรตีนเก่าๆ ที่ถูกย่อยไม่หมดและจะมีสภาพติดเป็นอุจจาระยางเหนียวสีดำคล้ายกับ "จาระบี" 6.
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล) 2 0 คนเห็นว่าคำถามนี้มีประโยชน์ คุณเห็นว่าคำถามนี้มีประโยชน์หรือไม่ March 14, 2017 19:19 ตอบโดย นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ. ) ในกลุ่มของคนไข้ที่สูงอายุมีโอกาสที่จะพบภาวะท้องผูกสูงขึ้น ซึ่งมีสาเหตุหลายสาเหตุด้วยกัน คือ 1. ผู้สูงอายุมักรับประทานอาหารน้อยลง บางคนจะรับประทาน อาหารที่มีกากใยไม่ค่อยได้ 2. ดื่มน้ำน้อยลง 3. ผู้สูงอายุมักจะมีภาวะของโรคอยู่หลายๆโรค ที่ทำให้มีโอกาส ท้องผูกได้ง่าย เช่น โรคเบาหวาน 4.
คิดไม่ออกต้องท่องเนต เล่นโซเชียล แหล่งรวมของการเรียนรู้ และไอเดียขนาดใหญ่สมัยนี้ คงหนีไม่พ้นอินเตอร์เนต และโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ ที่มีเรื่องราวให้เราเสพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเบาสมองวาไรตี้ จนไปถึงเรื่องหนัก ๆ เปี่ยมสาระ ดังนั้นถ้าเราสมองตีบสมองตัน ก็เลื่อนเม้าท์ไปเข้าเนท หาอะไรดูผ่อนคลายให้อมยิ้ม หรือหาไอเดียต่อยอดแนวคิดที่เรากำลังคิดอยู่ก็ได้ทั้งนั้น ลองโพสท์ถามไอเดียเพื่อนในโซเชียลดูก็ได้ เผื่ออาจจะได้ความคิดสด ใหม่ แบบที่คิดไม่ถึงกันเลยทีเดียว 5. คิดไม่ออกต้องออกไปหาแรงบันดาลใจ ถ้า deadline งานคุณยังพอมีเวลา ลองออกไปแตะขอบฟ้าแบบที่พี่ตูน บอดี้สแลม แนะนำบ้างจะเป็นไร หลาย ๆ ครั้งการนั่งจ่อมเจ่าอยู่ที่เดิมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สมองตันเช่นกัน ลองเดินออกไปมองฟ้า มองน้ำ ไปซื้อกาแฟ หรือไปพักผ่อนนอกโต๊ะทำงาน หรือเดินออกไปนอกออฟฟิศสักพัก สมองอาจลื่นไหลขึ้น แต่อย่าไปนานจนโดนดุล่ะ ควบคุมเวลาของตัวเองให้ดีด้วย จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง 6. คิดไม่ออกต้องออกกำลังกาย การออกกำลังกายได้รับการวิจัยจากหลายสถาบันมาแล้วทั่วโลกว่าทำให้เลือดสูบฉีด อะดรีนาลีนหลั่งไหล สมองแล่นไว ดังนั้นถ้าคิดไม่ออก ไอเดียฝืดเคือง หยิบรองเท้าวิ่งขึ้นมา แล้วออกวิ่งพอเหนื่อย หรือจะว่ายน้ำ โยคะ ฝึกสมาธิทำได้ทั้งนั้น เอาที่ชอบ ๆ ทำให้เหมือนประมาณว่า พักสมองไม่ต้องคิดเรื่องงานไปเลยสักชั่วโมง สองชั่วโมงแล้วไปออกกำลังกาย เชื่อสิ ไอเดียจะแล่นปรู้ดปร้าดเลยทีเดียว 7.
หอย ลาย อบ เนย กระเทียม, 2024